ถาม : ไปนั่งสมาธิอยู่หน้าพระพุทธองค์เจ้าค่ะ พอจิตอยู่ในสภาพนี้ กายของตัวเองเริ่มเปลี่ยนเป็นกายที่ใสๆ แล้วเปลี่ยนเป็นองค์พระเจ้าค่ะ แล้วสักพักก็มีแสงเป็นสีรุ้งรอบๆ ก็เลยสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นไม่เข้าใจ ?
ตอบ : ไม่เกิดอะไรขึ้นจ้ะ
อย่าลืมว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ไหนนอกจากพระนิพพาน การที่เราส่งกำลังใจขึ้นพระนิพพาน เป็นการตัดกิเลสโดยอัตโนมัติและง่ายที่สุด เพราะ ว่าตัว รัก โลภ โกรธ หลง ต่างๆ เป็นสมบัติของร่างกาย ถ้าไม่มีใจซึ่งเป็นตัวคอยปรุงแต่งเพิ่มเติมไป คอยที่จะกระตุ้นเร้าอยู่ กิเลสพวกนี้ก็ต้องดับลงไปเองตามธรรมชาติอยู่แล้ว เพราะเป็นของที่ไม่ยั่งยืน อยู่นานไม่ได้
หลวงพ่อฤๅษีท่านสอนมโนมยิทธิ ให้พวกเรารู้จักพระนิพพาน ไปพระนิพพานได้ เพราะเป็นการตัดกิเลสที่ง่ายที่สุด ไม่มีวิธีไหนง่ายกว่านี้อีกแล้ว
หลวงพ่อท่านเคยเล่าให้ฟังว่า มีระยะหนึ่งมีพระสำเร็จอรหันต์ ๗ องค์พร้อมๆ กัน ปรากฏว่าท่านมาศึกษา มโนมยิทธิ ไปจาก วัดท่าซุง แล้วท่านก็ตั้งหน้าตั้งตาเอาใจเกาะพระบนนิพพานอย่างเดียว พอถามท่านว่า "เป็นพระอรหันต์ได้อย่างไร ?" ท่านบอก "ก็ไม่รู้..อยู่ๆ ก็เป็นเอง"
ลักษณะอย่างนี้เพราะ การที่เราเอาจิตเกาะนิพพาน สภาพจิตจะแจ่มใส กิเลสกินเราไม่ได้ พอนานไปความเคยชินเกิดขึ้น จิตใจผ่องใสมากขึ้นเรื่อยๆ กิเลสก็จะหมดไปเองโดยอัตโนมัติ
จุดนี้คือที่จุด สำคัญที่สุด ของ โนมยิทธิ ที่หลวงพ่อฤๅษีท่านต้องการให้พวกเราทำ
ท่านไม่ได้ให้เราเอาไปฟื้นความสัมพันธ์กับคนอื่น ท่านสอนให้เราละ แต่ส่วนใหญ่จะเอาไปยึด รีบๆ ทำเข้า ตอนนี้มาตรงทางแล้ว วิธีนี้แหละ ทำบ่อยๆ เข้าอีกไม่นาน คงจะได้เผากันแน่..!
ถาม : ....พอทำถึงตรงนี้มีความรู้สึกว่าตอนนี้เรามีชีวิตอยู่เพื่อหน้าที่ๆ เราจะต้องทำ ทำตามหน้าที่ๆ ควรจะทำ แล้วก็ไม่มีความหวังที่จะอยากได้อะไร หรือเป็นอะไร ดูว่างๆ ไม่เข้าใจว่า...?
ตอบ : ...(หัวเราะ)... เข้าใจจ้ะ ไม่ต้องอธิบายจ้ะ ตอนนี้ ถ้าหากว่ารักษาอารมณ์ใจนั้นได้ เราก็ จะอยู่เหนือบุญเหนือบาป รู้ว่าอันนี้ดีก็ทำ รู้ว่าอันนี้ชั่วก็ละ จิตไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว ไม่กลัวตาย ไม่อยากตาย แต่พร้อมที่จะตายได้ทุกเวลา ถ้าหากว่างานของตัวเองหมด ก็จะไปทันทีเลยจ้ะ
ถาม :แบบนี้หรือเจ้าคะ ?
ตอบ : จ้ะ....เพราะฉะนั้น..รีบหางานให้เยอะๆ เข้าไว้ ...(หัวเราะ)... กำลังใจของคนที่ทำถึงจุดนี้ ถ้ากำลังใจตั้งตรงจุดจริงๆ ไม่มีใครเขาอยากอยู่กันหรอก
ถาม : แล้วจิตเราสบายดีนะเจ้าคะ ?
ตอบ : วะ..! ไม่สบายใครเขาจะทำกันเล่า
ถาม : ...ทำต่อหรือเจ้าคะ ?
ตอบ : ทำต่อจ้ะ ถึงตอนนี้เราจะเข้าใจชัดเจนว่า จริงๆ แล้วนิพพานไม่เห็นต้องยึดต้องเกาะอะไร เพราะเต็มอยู่ในใจของเราเอง ตายเมื่อไหร่เราก็รู้ว่าเราไปพระนิพพานแน่ พูดให้คนอื่นฟังมามากแล้ว เขาคลำตรงนี้ไม่ค่อยถูกกัน ...
แรกๆ ก็ต้องอาศัยเกาะก่อน เหมือนเกาะราวบันไดเดินขึ้นบันไดมา เราเกาะเพื่อความมั่นคง แต่พอถึงห้องข้างบนแล้ว เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแบกราวบันไดไปด้วย เพราะเราถึงแล้วนี่...
ดัง นั้น..เมื่อถึงตอนนี้ อารมณ์พระนิพพานจะเต็มอยู่ในใจของเราเอง ในเมื่อเต็มอยู่ในใจของเราเอง เราก็จะเกิดความมั่นใจขึ้นมาว่า ตายตอนนี้เราก็นิพพานตอนนี้ ไม่เห็นจะต้องไปยึดไปเกาะอะไรอีกแล้ว
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕
ที่มา http://board.palungjit.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น